ว่านน้ำต้นว่านน้ำสมุนไพรว่านน้ำว่านน้ำ เหง้ารากต้นใบ จำนวน1เหง้า นำไปปลูก นำไปทำยารักษาโรค ใช้เข้าสมุนไพรต่างๆ
ว่านน้ำ เป็นพืชสมุนไพรที่มีพลังร้อน มีลำต้นเป็นเหง้าอยู่ใต้ดินเป็นแท่งค่อนข้างแบน ใบมีลักษณะแข็งตั้งตรง ปลายใบจะแหลม ใบเรียงสลับกันซ้ายขวาเป็นแผง ดอกมีสีเขียวขนาดเล็กจะออกดอกเป็นช่อ มีจำนวนมากอัดกันแน่นเป็นแท่งรูปทรงกระบอก ชอบขึ้นตามที่น้ำขัง หรือที่ชื้นแฉะ
วิธีการปลูกและดูแลรักษาแก้ไข
ว่านน้ำปลูกได้ดีในที่ชื้นแฉะ มีน้ำท่วม ริมบ่อน้ำ ปลูกโดยการตัดต้นพันธุ์หรือเหง้าให้มีข้ออย่างน้อย ข้อ ปักชำในกระบะทรายก่อน พอเริ่มงอกจึงย้ายไปปลูก หรือนำท่อนพันธุ์ไปปักประมาณ สัปดาห์ จะเป็นใบอ่อนแตกออกมา ขยายพันธุ์โดยการแตกหน่อ
ส่วนการดูแลรักษา ว่านน้ำเป็นพืชที่ชอบแสงแดดรำไร เจริญเติบโตได้ดีในฤดูฝน เมื่อเข้าปลายฤดูฝนเหง้าจะเริ่มมีใบแห้ง เริ่มจากเหง้าข้อที่ ไปเรื่อยๆ ถ้าขาดน้ำในช่วงนี้เป็นเวลานาน เหง้าอาจจะแห้งตายได้แต่ถ้ามีน้ำอยู่ เหง้าก็ยังคงสดอยู่และแตกรากและใบใหม่ต่อไป
สรรพคุณ ทางสมุนไพรมีที่ใช้มาก
ราก ถ้านำมารับประทานมากๆ จะทำให้อาเจียน แต่ว่ามีกลิ่นหอม รับประทานน้อยๆ สามารถใช้เป็นยาแก้ปวดท้อง บำรุงธาตุ แก้จุก ขับลมในลำไส้ ปรุงลงในยาขมต่างๆ ทำให้ระงับอาการปวดท้องได้เพราะในว่านน้ำมีสารชนิดหนึ่งเรียกว่า อาโกริน ที่มีรสขมและแอลคาลอยด์ คาลาไมท์ เป็นยาแก้บิด เป็นยารักษาบิดของเด็ก (คือมูกเลือด) และหวัดลงคอ (หลอดลมอักเสบ) ได้เป็นอย่างดี เป็นยาขับเสมหะอย่างดี และรากยังใช้เป็นยาเบื่อแมลงต่างๆ เช่น แมลงวัน เป็นยาแก้เส้นกระตุก แก้หืด ขับเสมหะ แก้ปวดศีรษะ แก้ปวดกล้ามและข้อ แก้โรคผิวหนัง
เหง้า นำมาใช้ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้โรคผิวหนัง เป็นยาหอมได้
น้ำมันหอมระเหยจากต้น สามารถแก้โรคชัก เป็นยาขมหอม ขับแก๊สในท้อง ทำให้เจริญอาหาร ช่วยการย่อยอาหารได้ดี
นอกจากนี้ว่านน้ำยังมีสรรพคุณ ในการช่วยเสริมสร้างสติปัญญาและช่วยพัฒนาความจำให้มีความจำดี ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ อีกทั้งช่วยให้นมมารดาบริสุทธิ์ ในตำราของอินเดีย ใช้ว่านน้ำผสมกับยารักษาโรค รักษาเกี่ยวกับโรคสมอง ท้องร่วง โรคตา แก้หอบหืด โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น